ในยุคที่ตัวเลขดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์มีค่าไม่ต่างจาก 0% (ประมาณ 0.5%) ยิ่งเมื่อหักลบกับอัตราเงินเฟ้อ (เฉลี่ย 3%) ทำให้ผลตอบแทนที่ได้เมื่อเทียบกับเงินเฟ้อคือติดลบ ดังนั้นการฝากเงินไว้ในธนาคารเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ และไม่สามารถทำให้เงินออมของเรางอกเงยขึ้นมาได้ เราจึงจำเป็นต้องหาทางเลือกอื่นๆ ในการสร้างความมั่งคั่งให้กับตนเอง การเรียนรู้เรื่อง ‘การลงทุน’ จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก

          หลายคนที่สนใจการลงทุน แต่มักจะมีความกลัวการลงทุน โดยมากคือกลัวขาดทุน หรือไม่รู้จะเริ่มต้นลงทุนอย่างไร ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน คำแนะนำเบื้องต้นคือ ลองเริ่มต้นจากการ ‘รู้จักตัวเอง’ โดยการรู้จักตัวเองคือ การรู้ว่า ‘เป้าหมายการลงทุน’ ของเราคืออะไร เช่น ลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ เพื่อลดหย่อนภาษี เพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ เป็นต้น

          เมื่อรู้เป้าหมายการลงทุนแล้ว เรื่องถัดมาคือ พิจารณาระดับความสามารถในการรับความเสี่ยงของเรา ว่าเรารับความเสี่ยงได้แค่ไหน ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนเท่าไหร่ มีเงินลงทุนมากน้อยเพียงใด หรือมีข้อจำกัดในเรื่องระยะเวลาของการลงทุนหรือไม่ เพราะหากตอบคำถามเหล่านี้ได้ เราก็จะสามารถหาทางเลือกการลงทุนที่ตอบโจทย์เราได้มากที่สุด

          เมื่อรู้จักตัวเองแล้ว เรื่องถัดมาที่เราต้องรู้ คือ ‘รู้จักเครื่องมือ’ นั่นคือ รู้จักทางเลือกในการลงทุน โดยในปัจจุบันทางเลือกการลงทุนก็มีหลากหลายมากขึ้น เช่น หุ้นสามัญ พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ และกองทุนรวมประเภทต่างๆ ซึ่งทางเลือกในการลงทุนแต่ละประเภทก็มีรายละเอียดและความซับซ้อนที่แตกต่างกันออกไป ในการลงทุนเพื่อให้ประสบความสำเร็จ เราจึงต้องมีความเข้าใจถึงคุณสมบัติเฉพาะตัว ความเสี่ยง ผลตอบแทน ตลอดจนข้อดีและข้อเสียของการลงทุนแต่ละประเภท

          สุดท้ายนอกจากรู้จักตัวเองและรู้จักเครื่องมือในการลงทุนแล้ว เรายังต้องรู้ ‘จังหวะการลงทุน’ เพราะการรู้และเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ เช่น เศรษฐกิจ การเมือง สังคม และปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อทิศทางการลงทุน จะทำให้เราสามารถกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ได้

          นอกจากนี้สำหรับการลงทุน สิ่งที่ตามมากับดอกผลที่มากขึ้น คือ ความเสี่ยง แต่เราก็สามารถจัดการกับความเสี่ยงในการลงทุนได้ด้วยการ ‘จัดสรรเงินลงทุน’ หรือ การทำ ‘Asset Allocation’ โดยการกระจายการลงทุนไปยังทางเลือกการลงทุนหลายๆ ประเภท เหตุผลที่เราไม่ควรทุ่มเงินไปกับการลงทุนประเภทใดประเภทหนึ่งจนมากเกินไป เพราะหากผลลัพธ์จากการลงทุนไม่เป็นไปตามที่คาดไว้  เราอาจสูญเสียเงินต้นทั้งหมดในคราวเดียวกันก็เป็นได้  ดังนั้นหากเรารู้จักการจัดสรรเงินลงทุนอย่างเหมาะสม โดยพิจารณาถึงความสัมพันธ์และทิศทางการขึ้นลงของราคาที่แตกต่างกันในสินทรัพย์ลงทุนในแต่ละประเภท การขาดทุนจากการลงทุนประเภทหนึ่ง อาจถูกชดเชยด้วยกำไรจากการลงทุนอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนลงแล้ว ยังทำให้ถัวเฉลี่ยผลตอบแทนรวมได้ด้วย

          กล่าวโดยสรุปหากเรามีความรู้ ความเข้าใจในการลงทุนที่ถูกต้อง การลงทุนก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป และการลงทุนก็จะกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่ทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้

          ดังนั้นความตั้งใจและปณิธานของเรา บริษัทโปรฟิต โปรเฟสชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้การอบรมเกี่ยวกับการวางแผนการเงินส่วนบุคคล คือ การให้ความรู้ การฝึกอบรม การจัดสัมมนา และการให้การศึกษาเพื่อความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต (Life-Long Learning) ในเรื่องของการวางแผนการเงินส่วนบุคคล ขอเสนอ หัวข้อการอบรม ‘การลงทุนขั้นพื้นฐาน’ โดยเป็นหลักสูตรฝึกอบรม 1 วัน เพื่อเป็นพื้นฐานให้พนักงานของท่านมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการวางแผนการลงทุนอย่างง่ายๆ และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมในครั้งนี้ ไปใช้ในการบริหารจัดการการเงินของตัวเองได้

          หัวข้อการอบรม ตามแสดงในหน้า 3 ของ proposal ฉบับนี้ อย่างไรก็ตาม เนื้อหาหลักสูตรสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและความเหมาะสมขององค์กรที่สนใจ